วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Ball Fury ปิงปองติงต๊องหรือฮอลลีวู้ดติงต๊อง



Ball Fury เป็นหนังตลกเกือบมีสาระอีกเรื่องหนึ่งของฮอลลีวู๊ด ดูแล้วให้คิดเปรียบเทียบกับหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น หลายเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกสนุกและตลก แต่ในความตลกนั้นมีแก่นสาระของเนื้อเรื่องที่มีความจริงจัง ทำให้ผู้อ่านยอมรับในสิ่งที่นักเขียนการ์ตูนพยายามจะสื่อให้เห็น การ์ตูนหลายเรื่องไม่ได้ตั้งใจจะเสนอความตลกเป็นแกนหลักของเรื่อง แต่ก็มีมุขตลกเดินเรื่องควบคู่กันไปตลอดทั้งเรื่อง อ่านแล้วไม่เบื่อ ขอยกตัวอย่างเช่นเรื่อง ข้าชื่อโคทาโร่ , GTO , วันพีซ , นักเตะเลือดกังฟู เป็นต้น แม้ว่าจะมีความตลกอย่างไร สุดท้ายก็จะรักษาแกนกลางของเรื่องไว้อย่างคงที่

การตีปิงปองกลางป่า บนสะพาน โดยไม่มีโต๊ะ การที่นักปิงปองร้างโต๊ะปิงปองไป 18 ปี กลับมาเอาชนะเซียนปิงปองแห่งไชน่าทาวน์ได้อย่างง่ายดาย การตีปิงปองแบบ 1 ต่อ 2 หรือ 1 ต่อ 4 ดูจะเกินจากความเป็นจริงเกินไป พาลทำให้ดูไม่ตลกไปเสีย และนั่นก็เป็นสิ่งที่ฮอลลีวู๊ดทำอยู่เป็นประจำ

แม้บทสนทนาในหนังบ่อยครั้งจะพูดว่า “มันไม่ใช่แค่ปิงปอง แต่มันเป็นยิ่งกว่า เป็นสิ่งแสดงถึงความเป็นคนจีน เป็นวัฒนธรรม เป็นสิ่งที่สืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษ” แต่สิ่งที่ตัวละครแสดงออกล้วนแต่แสดงออกถึงความไม่นับถือความเป็นชาติจีน ความเป็นเอเชีย หรือความเป็นกีฬาปิงปอง ซึ่งก็เป็นผลมาจากการไม่นับถือความเป็นตะวันออกของชาวตะวันตกนั่นเอง ซึ่งเรามักจะเห็นบ่อย ๆ ในหนังที่เกี่ยวกับกังฟู ที่สร้างโดยฮอลลีวู๊ด พระเอกฝรั่งมักเอาชนะจอมยุทธ์กังฟูอย่างง่าย ๆ โดยไม่มีเทคนิคอะไรเลย หรือไม่ก็นำเอากังฟูมายำจนเละดูไร้สาระเต็มรูปแบบ
หาก Ball Fury เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น เราคงเห็นการดวลปิงปองที่สนุกสนาน สมศักดิ์ศรีนักปิงปอง เหมือนการ์ตูนเรื่อง กลมกลิ้ง สิงห์ปิงปอง ที่สร้างความประทับใจให้นักอ่านมาแล้วทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ
การใส่มุขตลกแต่เพียงอย่างเดียวในหนัง ก็ไม่ต่างอะไรกับการกินก๋วยเตี๋ยวที่ไม่มีอะไรนอกจากลูกชิ้น นั่นมันก็ไม่ใข่ก๋วยเตี๋ยวแต่เป็นแค่ซุปลูกชิ้น อาจสร้างความผิดหวังให้คนกินที่หวังจะกินก๋วยเตี๋ยวให้อร่อย คำว่า “สนุก” กับ “ตลก” นั้นต่างกัน คำว่าสนุกนั้นประกอบด้วยศาสตร์และศิลป์ แต่คำว่าตลกนั้น บางครั้งก็แฝงไว้ด้วยความไร้สาระ
ถ้าฮอลลีวู๊ดแยกคำสองคำนี้ออก หนังตลกไร้สาระคงจะหมดไป อยากแนะนำว่าให้ลองไปปรึกษาสำนักพิมพ์การ์ตูนญี่ปุ่นดู เผื่อจะได้อะไรดี ๆ บ้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น